ล่าสุดเพิ่งผ่านช่วงหยุดยาวสงกรานต์ไปหยกๆ หลายๆ ครอบครัวน่าจะใช้รถเพื่อเดินทางไกล ฉะนั้น เมื่อกลับมาแล้ว ก็ต้องมาเช็ครถกันหน่อย ซึ่งบทความนี้เราได้มีวิธีการตรวจเช็คสภาพรถยนต์อย่างละเอียดถี่ถ้วนหลังจากเดินทางไกลมาฝาก แต่วิธีการตรวจเช็คสภาพรถยนต์อย่างละเอียดถี่ถ้วนหลังจากเดินทางไกลที่เรานำมาฝากจะมีวิธีการใดบ้างนั้น ต้องตามมาดูกันเลย
วิธีการตรวจเช็คสภาพรถยนต์อย่างละเอียดถี่ถ้วน
- วิธีการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ : ตรวจวัดระดับของเหลวทั้งหมดในรถ จุดใดที่ต้องเต็มก็ควรเติมให้เต็ม จุดใดควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมก็ควรทำตามอย่างเคร่งครัด
- วิธีการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ : ตรวจสอบไส้กรองอากาศ เพราะถนนก็เป็นอีกหนึ่งในสถานที่เต็มไปด้วยมลภาวะ การที่อากาศหรือไอดีสามารถเดินทางไปยังห้องเผาไหม้ได้ดี ก็จะส่งให้เชื้อเพลิงเผาไหม้ได้สมบูรณ์
- วิธีการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ : ระบบไฟและระบบส่องสว่าง เนื่องจากบนท้องถนน รถไม่สามารถสื่อสารกันเองได้ และไม่สามารถพูดอะไรกับคนขับได้ สัญญาณไฟและระบบส่องสว่างทุกจุดบนรถจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
- วิธีการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ : ผ้าเบรก สภาพของผ้าเบรกมีส่วนช่วยชี้เป็นชี้ตายในช่วงเวลาสำคัญ เพราะผ้าเบรกมีส่วนช่วยลดระยะในการเบรก เป็นชิ้นส่วนหลักที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการเฉี่ยวชนได้
- วิธีการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ : อะไหล่ต่างๆ ที่เสื่อมสภาพได้ตามกาลเวลา เช่น ยางขอบกระจก ยางขอบประตู ยางแท่นเครื่อง แม้ว่าชิ้นส่วนเหล่านี้จะไม่ได้มีผลให้รถขับเคลื่อนไม่ได้เลยเมื่อเสื่อมสภาพ แต่ก็ส่งผลต่อสมาธิของคนขับ
เมื่อตรวจเช็ครถยนต์เรียบร้อยแล้ว ก็เข้าสู่กระบวนการการทำประกันและต่อประกันรถยนต์ ซึ่งเราขอแนะนำประกันรถยนต์ชั้น 1 โดยประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้างต้องตามมาดูกันเลย
ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง
หากถามว่าประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง เราต้องบอกเลยว่า หลายสิ่งอย่างมาก อาทิ ให้ความคุ้มครองทั้งรถยนต์ที่เอาประกันและรถยนต์ของคู่กรณี แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น โดยรับผิดชอบทรัพย์สินที่เกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ ตามทุนประกัน เช่น รถยนต์ของคู่กรณี รั้วบ้าน เสาบ้าน หรือสิ่งของที่เสียหาย เป็นต้น รับผิดชอบในกรณีรถยนต์สูญหาย หรือถูกโจรกรรม ตามทุนประกันที่ระบุไว้ ให้ความคุ้มครองกรณีไฟไหม้รถยนต์ คุ้มครองในกรณีน้ำท่วมหรือเกิดภัยทางธรรมชาติ เป็นต้น